วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีไทย


โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีไทย

การใช้ภาพพจน์ในวรรณคดี

ภาพพจน์ หมายถึง คำ หรือ กลุ่มคำ ที่สร้างขึ้นจากกลวิธีในการใช้คำ เพื่อให้ปรากฏภาพที่เด่นชัดและลึกซึ้งขึ้นในใจทำให้ผู้อ่านและผู้ฟังเกิดจินตภาพคล้อยตาม การสร้างภาพพจน์เป็นสิลปทางภาษาขั้นสูงของการแต่งคำประพันธ์ โดยผู้แต่งใช้กลวิธีการเปรียบเทียบที่คมคายในลักษณะต่างๆ ภาพพจน์มีหลายประเภท แต่ที่สำคัญๆ คือ

อุปมา 

การเปรียบสิ่งหนึ่งเหมือนอีกสิ่งหนึ่ง โดยใช้คำเชื่อมเหล่านี้ "เหมือน ราว ราวกับเปรียบ ดุจ ประดุจ ดัง ดั่ง เฉก เช่น เพียง เพี้ยง ประหนึ่ง ถนัด กล เล่ห์ ปิ้มว่า ปาน ครุวนา ปูน พ่าง ละม้าย แม้น"

อุปลักษณ์ 

การเปรียบสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง มักใช้คำว่า "คือ" และ "เป็น" เช่น ครูคือเรือจ้าง ทหารเป็นรั้วของชาติ

ถึงห้วยโป่งเห็นธารละหานไหล คงคาใสปลาว่ายคล้ายคล้ายเห็น
มีกรวดแก้วแพรวพรายรายกระเด็น บ้างแลเห็นเป็นสีบุษราคัม
(นิราศเมืองแกลง)

บุคคลวัต 

การสมมุติสิ่งต่าง ๆ ให้มีกิริยาอาการ ความรู้สึกเหมือนมนุษย์ เช่น ดวงตะวัน แย้มยิ้ม, สายลมโลมไล้เอาอกเอาใจพฤกษาลดามาลย์

อติพจน์ 

การเปรียบเทียบโดยการกล่าวข้อความที่เกินจริง มักเปรียบเทียบในเรื่องปริมาณว่ามีมากเหลือเกิน มีเจตนาเน้นข้อความที่กล่าวนั้นให้มีน้ำหนักยิ่งขึ้น เช่น ร้อนตับแตก, คอแห้งเป็นผง, รักคุณเท่าฟ้า, มารอตั้งโกฎิปีแล้ว, ใจดีเป็นบ้า,อกไหม้ไส้ขม, เหนื่อยสายตัวแทบขาด

นามนัย 

การใช้คำหรือวลีที่บ่งลักษณะหรือคุณสมบัติของสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาแสดงความหมายแทนสิ่งนั้นทั้งหมด เช่น ใช้ เวที แทน การแสดง มงกุฎ, พระบาท แทน กษัตริย์ เก้าอี้ แทนตำแหน่งหน้าที่ของผู้บริหาร ข้าวปลา แทน อาหาร

สัญลักษณ์การใช้สิ่งหนึ่งแทนอีกสิ่งหนึ่งที่มีคุณสมบัติหรือลักษณะภาวะบางประการร่วมกันเป็นการสร้างจินตภาพซึ่งใชัรูปธรรมชักนำไปสู่ความหมายอีกชั้นหนึ่ง ส่วนใหญ่มักจะเป็นที่เข้าใจในสังคม เช่น ใช้ ดอกไม้ แทน ผู้หญิง เพราะมีคุณสมบัติร่วมกัน คือความสวยงามและความบอบบาง ใช้ ราชสีห์ แทน ผู้มีอำนาจ เพราะราชสีห์และผู้มีอำนาจต่างมีคุณสมบัติร่วมกันคือความน่าเกรงขาม



สัทพจน์ (Onomatopoeia) 

คือ การเปรียบเทียบโดยใช้คำเลียนแบบให้เห็นท่าทาง แสง สี ได้ยินเสียงอย่างใดอย่างหนึ่งหรือ หลายอย่างรวมกันก็ได้ มักจะพบในความเป็นธรรมชาติ หรือเครื่องดนตรี หรือเครื่องใช้ตามวิถีชาวบ้าน เช่น



วิภาษ (Oxymoron)

 การเปรียบเทียบความขัดแย้ง หรือสิ่งที่ตรงข้ามกันนำมาจับเข้าคู่กัน เช่น กากับหงส์ ดินกับฟ้ามืดกับสว่าง ดังตัวอย่างเช่น

อรรถวิภาษ (Paradox)

 คือ การเปรียบเทียบการใช้คำที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกันแต่เมื่อพิจารณาความหมายลึกซึ้งโดยแท้จริงแล้วอาจเข้ากันได้ หรือนำมาเข้าคู่กันได้อย่างกลมกลืน



อธินามนัย (Metonymy)

 คือ การเปรียบเทียบ โดยจาระไนของหลาย ๆ อย่างที่มีลักษณะเหมือนกันหรือคล้ายคลึงกันมากล่าวนำ และสรุปความหมายรวม คือใช้ชื่อเรียกรวม ๆ แทนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่ง

ปฏิพากย์ 

การนำเอาคำและความหมายที่ไม่สอดคล้องกันและดูเหมือนจะขัดแย้งกันมารวมไว้ด้วยกันเพื่อให้เกิดผลการสื่อสารเป็นพิเศษ เช่น น้ำผึ้งขม, คาวน้ำค้าง, ศัตรูคือยากำลัง, ยิ่งรีบก็ยิ่งช้า, รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ, น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย,แดดหนาว, มีความเคลื่อนไหวในความหยุดนิ่ง


อุปมานิทัศน์ 

การใช้เรื่องราวนิทานขนาดสั้นหรือขนาดยาวประกอบ ขยาย หรือแนะโดยนัยให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งในแนวความคิด หลักธรรม หรือข้อควรปฏิบัติที่ผู้เขียนประสงค์จะสื่อไปยังผู้อ่านผู้ฟัง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น